เปิดลิสต์ 10 เว็บไซต์ซื้อขาย NFT ที่กำลังได้รับความนิยมในปี 2022

พ.ค. 29, 2022 | บทความทั่วไป, สาระน่ารู้

ในยุคที่ดิจิทัลกำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผู้คน แม้กระทั่งงานศิลปะเองก็สามารถนำขึ้นไปขายบนโลกออนไลน์สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ศิลปินไม่ว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก หรือศิลปินนิรนามก็ตามโดย NFT กลายเป็นตัวเลือกหนึ่งในการนำผลงานศิลปะซึ่งหากไม่รู้ว่าจะเลือกขาย NFT Art เว็บไหนดี วันนี้เรามาพร้อม 10 ลิสต์รายชื่อเว็บไซต์สำหรับซื้อขาย NFT พร้อมเผยถึงจุดเด่นของแต่ละเว็บไซต์ว่าต่างกันอย่างไรและทำไมถึงน่าลงทุน 

10 เว็บไซต์ซื้อขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในปี 2022

หากไม่รู้ว่าจะซื้อขาย NFT Art เว็บไหนดี วันนี้เรารวบรวม 10 เว็บไซต์ซื้อขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในปี 2022 ดังนี้ 

  1. Opensea เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้าน NFT ที่ใช้ Etheream ในการซื้อขายสินค้า 

จุดเด่น: เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นที่ต้องการสะสมดิจิทัล หรือต้องการซื้อขาย NFT ได้หลากหลาย โดยมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างถูก รองรับและเปลี่ยน Chain ได้ภายในคลิกเดียว มั่นใจเรื่องความปลอดภัยและสามารถสร้าง NFT Collection โดยไม่รู้เกี่ยวกับ Coding หรือ Blockchain 

จุดด้อย: ชำระได้ด้วยคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้นและจำเป็นต้องใช้ Digital Wallet ในการซื้อขาย 

  1. Rarible เป็นแพลตฟอร์ม All in One ที่รวมผู้ซื้อ ผู้ขายและผู้สร้างไว้ในแพลตฟอร์มเดียวที่สามารถสร้างการซื้อขายสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผ่านโทเค็น (Token) บน Etheream 

จุดเด่น: ชำระได้หลายช่องทาง (เดบิต, เครดิต, ETH Wallet, Google Pay) หากเป็นสมาชิก Rarible จะเชื่อมต่อ Rarible Community ได้หลายช่องทาง อาทิ Telegram, Instagram, Twitter, เข้าถึงการมีส่วนร่วมต่าง ๆ (แจกรางวัล), ปกป้องผลงานของศิลปินด้วยกลไกต่าง ๆ และสามารถยื่นราคาประมูลได้ 

จุดด้อย: ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม 2.5% ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายและการฝากเงิน หรือถอนจะต้องมี ETH Crypto Wallet 

  1. Foundation.app เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเนื่องจากมีผลงาน NFT ชื่อดังมักปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มนี้ 

จุดเด่น: รูปแบบแพลตฟอร์มออกแบบมาให้ค่อนข้างใช้งานง่ายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ซับซ้อนและสามารถคค้นหา หรือเรียกดูผลงานศิลปะได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ 

จุดด้อย: เป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT สำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น ค่าแก๊สและค่า Mint อาจเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% และคิดค่าธรรมเนียม 15% จากราคาของผลงาน 

  1. SuperRare ตลาด NFT แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ใช้ Etheream Blockchain สร้าง Mint และทำธุรกรรม รวมถึงตรวจสอบ NFT บนแพลตฟอร์มซึ่งค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

จุดเด่น: แพลตฟอร์มแบบเอ็กซ์คลูซีฟ (Exclusive) ที่ให้ค่าลิขสิทธิ์ศิลปินสูงและมี User Interface ที่ค่อนข้างใช้งานง่าย 

จุดด้อย: ค่าธรรมเนียมสูงกว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ และต้องชำระด้วย ETH เท่านั้น 

  1. Larva Lab ตัวอย่างผลงานอย่าง Crypto Punk บนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากคอลเล็คชั่นภาพพิกเซล 10,000 ชิ้นที่แต่ละภาพจะแสดงถึงบุคลิกและลักษณะพิเศษเฉพาะของคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง 

จุดเด่น: ผลตอบแทนสูงหากเป็นเจ้าของ Crypto Punks เนื่องจากหายาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมจุดเด่นอีกข้อของแพลตฟอร์มที่มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือที่มีการแสดงรายละเอียดและการตรวจสอบความถูกต้อง 

จุดด้อย: ค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง ไม่รองรับการชำระเงินอื่น ๆ เช่น Paypal หรือบัตรเครดิตและผลงานCrypto Punks จำกัดแค่ 10,000 ชิ้น

  1. Axie Marketplace นอกจากรูปภาพ ก็ยังมี NFT เกมที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Axie ที่มีลักษณะตัวละครไม่เหมือนใครคล้ายกับกลุ่มโปเกมอนที่สามารถสร้างได้จากการซื้อขายตัวละครบน Axie Marketplace

จุดเด่น: ใช้งานได้อย่างหลากหลาย สร้างโอกาสในการทำกำไรจากการเล่นเกมแบบ Earn to และมีช่องทางในการศึกษาบนแพลตฟอร์ม Axie Marketplace ได้ง่าย ๆ 

จุดด้อย: รูปแบบอาจค่อนข้างใช้งานยากสำหรับมือใหม่, ต้องมีการตั้งค่า Etheream Wallet หรือ Ronin Wallet โดยต้องฝาก ETH ใน Ronin เพื่อทำการซื้อ Axie อย่างน้อยสามตัวสำหรับการเริ่มต้นเล่นเกม 

  1. Nifty Gateway ตลาด NFT ระดับไฮเอนด์ที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับการซื้อขาย NFT ที่มีเบื้องหลังการประสบความสำเร็จคือการทำงานร่วมกับครีเอเตอร์ชื่อดัง แบรนด์ระดับโลก รวมถึงนักกีฬาและศิลปินต่าง ๆ 

จุดเด่น: เรื่องความปลอดภัยสูง ไม่จำเป็นต้องเชื่อม Crypto Wallet ส่วนครีเอเตอร์จะได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคต่าง ๆ 

จุดด้อย: ไม่ได้เปิดกว้างสำหรับศิลปิน หรือผู้ขายทั่วไปในการเข้ามาใช้งานซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มครีเอเตอร์ชื่อดัง หรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น 

  1. KnownOrigin หากต้องการความ Unique ผ่านงาน NFT ที่ค่อนข้างหายากซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะดิจิทัลด้วยการคัดสรรงานศิลปะที่ดีที่สุดเอาไว้ที่นี่ 

จุดเด่น: มีการตรวจสอบประวัติครีเอเตอร์โดยละเอียด พร้อมควบคุมคุณภาพผลงานและยังให้ค่าธรรมเนียมการขายผลงานมือสองกับทางครีเอเตอร์สูงถึง 12.5% 

จุดด้อย: ไม่เหมาะกับครีเอเตอร์ที่พึ่งสร้างผลงาน แม้จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับยอดผู้ติดตาม แต่เน้นดูผลงานจาก Portfolio ที่ต้องมีความโดดเด่น 

  1. Decentraland แพลตฟอร์มโลกเสมือน (Metaverse) ที่สร้างขึ้นจาก Etheream Blockchain ซึ่งเปรียบเสมือนการจำลองสิ่งที่มีบนโลกแห่งความจริง เช่น ที่ดิน ตัวละคร หรืออุปกรณ์ภายในเกม 

จุดเด่น: ผู้ใช้มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นในการแก้ไขนโยบาย การประมูลที่ดินต่าง ๆ ที่เปิดกว้างอย่างเสรีและมีความปลอดภัยสูงโดยสินทรัพย์ถูกจัดเก็บไว้ Ethereum Smart Contract

จุดด้อย: มีสภาพคล่องต่ำกว่า NFT เจ้าอื่น ๆ เนื่องจากยังไม่ได้มีการศึกษาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในโลกคริปโตเคอร์เรนซีอย่างสูงสุด แต่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต

  1. Binance NFT เป็นแพลตฟอร์มที่รวมทั้งผู้สร้าง ผู้ซื้อ รวมถึงคนที่ชื่นชอบคริปโตเคอร์เรนซี มาไว้ในแพลตฟอร์มเดียวซึ่งจะให้ Liquidity สูงสุดแก่ผู้ใช้งานสำหรับการซื้อขายและเปิดตัว NFT ที่มีศักยภาพในการรองรับหนึ่งในเครือข่าย Blockchain ที่ดี 

จุดเด่น: เหมาะกับมือใหม่ รองรับการชำระหลายประเภท รองรับหลายบล็อกเชนและค่าธรรมเนียมในการ (Minting) ต่ำ 

จุดด้อย: แพลตฟอร์มค่อนข้างใหม่และยังมีข้อจำกัดในการสร้าง Minting 

หากอ่านบทความมาตั้งแต่ต้นจบถึงบรรทัดนี้ คงจะตอบคำถามผู้ใช้งานได้แล้วว่า NFT Art ซื้อที่ไหนดีจาก 10 เว็บไซต์ตัวอย่างด้านบนที่เผยถึงจุดเด่นและจุดด้อยเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาก่อนลงทุนซึ่งบางเว็บไซต์เปิดให้ขายรูป NFT ฟรี แต่อาจมีค่าธรรมเนียมในการขาย หรือบางเว็บไซต์ก็อาจจะมีข้อจำกัดที่อาจเปิดรับเพียงครีเอเตอร์ที่มีผลงานมาแล้วเท่านั้น แต่ก็ยังมีบางเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้มือใหม่ได้แสดงฝีมือจึงควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขบริการต่าง ๆ ของแต่ละเว็บไซต์ให้เข้าใจก่อนลงทุน